ต้องมีการสอบปากเปล่าอีกขั้นหนึ่ง ก่อนจะวันที่ได้รับประกาศนียบัตรฯ ซึ่งการสอบเปล่านั้นดูจากชื่อเชื่อ
ว่ามีผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกตื่นเต้น ไม่เป็นอันทำอะไร กังวลว่าจะจะถามเราแนวไหน ถามอะไร อายไม่
กล้าพูด กลัวพูดไม่ถูก พูดไม่ได้ หรือกังวลไปสารพัดอย่าง ซึ่งจากที่เห็นหลายๆคนที่ผ่านตรงจุดนั้นมา
แล้ว ก็ล้วนแต่มาแชร์ในทำนองเดียวกันว่า มีอาการประมาณที่เล่ามาเมื่อกี้ ซึ่งประสบการณ์ตรงของผม
เอง ถามว่ามีความรู้สึกแค่ไหนในการสอบปากเปล่า ? ก็อยากจะตอบว่าผมไม่ได้มีอาการตื่นเต้นและ
กังวลมากไป แต่ก็มีอยู่บ้าง อาจเป็นเพราะผมมีความคิดว่า ถึงอย่างไรๆวันนี้เราก็ต้องผ่านไปให้ได้ อีก
ทั้งมีรุ่นพี่คนก่อนๆหน้ารายคนมักจะบอกต่อกันว่า "สุดท้ายก็ได้หมดทุกคนแหละ" ตรงนี้ลดความกดดัน
ผมไปได้ด้วยส่วนหนึ่ง แต่ในใจลึกๆก็หวั่นๆนิดนึง
การสอบปากเปล่า โดยส่วนมากมักจะมีการพูดกันต่อๆกันมาว่า ไม่มีปัญหา เพราะอาจารย์เขา
พยายามอยากให้เด็กผ่านกันทุกคนถึงกับบอกว่า "ขอให้สอบข้อเขียนให้ได้ก็พอ ปากเปล่าไม่ใช่ปัญหา"
ซึ่งในทางความเป็นจริง ผมเองได้ข่าวจากรุ่นพี่บางคนว่า มีการเข้าห้องเย็นแล้วเหมือนกัน ขอขยาย
ความนิด ห้องเย็น คือ ห้องสอบปากเปล่าห้องหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องสอบสำหรับคนที่สอบปากเปล่ากับ
กรรมการครั้งแรกไม่ผ่าน จึงส่งตัวมาสอบปากเปล่าห้องเย็นซึ่งมีกรรมการคุมสอบ 5 คน ในตอนแรกจะ
ได้สอบกับกรรมการ 2 คน แต่สำหรับคนไม่ผ่านปากเปล่า เคยได้ยินจากรุ่นพี่คนหนึ่งมาเหมือนกันว่า ไม่
ผ่านก็มี แต่อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกัน
จากการที่ผมได้ไปสอบปากเปล่ามานั้น เนื่องจากผมสามารถสอบใบอนุญาตว่าความได้ทั้ง 2
สนาม คือทั้งแบบรุ่น และ แบบปี ทางสำนักฝึกอบรมฯจึงให้กรณีผู้ผ่านการสอบทั้งสองสนามดังกล่าว
เข้าสอบของแบบปี จริงๆแล้วก่อนหน้าเคยมีรุ่นพี่บอกผมว่าของปีกับของรุ่น ของปีจะถามปากเปล่า
จำนวนข้อเยอะกว่าและเคี้ยวกว่าแบบรุ่น แต่ในรุ่นและปีที่ผมสอบนั้นเห็นว่าน่าจะใช้คำถามข้อเดียวกัน
ข้อนึง จะเล่าให้ต่อในตอนหลัง โดยสำนักฝึกอบรมฯได้จัดการสอบปากเปล่าที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
โดยต้องไปรายงานตัวระหว่างเวลา 8.00 - 8.30 น เห็นว่าหากมาช้ากว่านี้จะไม่อนุญาตให้เข้าสอบไม่
ว่ากรณีใดๆ ผมต้องรีบตื่นนอนตั้งแต่ตี 5 ครึ่ง เตรียมตัวอะไรเสร็จก็ออกไปกับแฟนเลย โดยนั่งแท็กซี่ไป
ตั้งแต่เวลา 6 โมงครึ่ง ปรากฏว่าไปถึงก่อนเวลาใช้เวลาครึ่งชั่วโมง ไปถึงเวลา 7 โมง ซึ่งนั่งรถจากหน้า
รามคำแหงมา เหลือเวลาเพียบ (ก่อนหน้าแทบไม่ได้หลับนอนเลย เพราะช่วงนั้นบริหารการนอนไม่ดี
นอนผิดเวลา) พอมาถึงแรกๆไม่ค่อยเห็นใครมาเยอะมาก พอเวลาผ่านไปก็เดินไปหาตึกสอบโดยตาม
คนที่เดินกันต่อๆตามกัน ตึกอาคารสอบ หรูเอาการอยู่ สมแล้วเป็นเมืองทอง เมื่อเดินเข้าไปในตึกสอบ
ขึ้นบรรไดเลื่อนก็ปรากฏว่าเจอผู้คนอยู่กันเยอะมากอยู่ทุกทิศทางเลย ที่นั่งก็ไม่มีเพราะคนนั่งกันเต็มหมด
มีบางคนพาญาติพาเพื่อนฝูงกันมาด้วย เห็นอยู่มุมหนึ่งมีขนมปัง กาแฟ ตั้งไว้บนโต๊ะ ไว้สำหรับผู้ที่มา
สอบปากเปล่า ซึ่งก็หยิบมากินกัน แต่ผมไม่กินนะครับ เพราะไม่อยากกินเท่าไหร่ ไม่ใช่เพราะตื่นเต้นนะ
แต่รู้สึกกินอะไรไม่ได้มากกว่า ต่อมาผมก็พาแฟนไปหาที่นั่งกันพลางๆจนกว่าจะรอเรียกลงชื่อรายงานตัว
ก็ได้พบที่นั่งจนได้แต่เป็นพื้นปูนเย็นๆนะซึ่งผมก็ได้พบกับรุ่นพี่ผู้ใหญ่ 2 คน ก็นั่งใกล้ๆกันก็ชวนคุยไป
เรื่อยๆ(ดูเหมือนจะรบกวนเขาด้วยนะ เห็นกำลังอ่านหนังสือเคร่งๆกันอยู่)ก็คุยกันไปเรื่องขอบเขตสอบ
เปล่าและเรื่องอื่นๆกันไป จนมาถึงเวลาลงชื่อรายงานตัวก็เข้าแถวกันเยอะแยะเต็มกันไปหมด ของผมก็
ให้ไปรายงานของสำนักงาน 1 ปี (ตั๋วปี) แถว A ซึ่งมีคนไม่เยอะเท่าไหร่ ลงเสร็จก็รอเข้าห้อง ห้องที่ผม
เข้าไปนี้ไม่ใช่ห้องสอบทีนะครับ แต่เป็นห้องที่มานั่งเรียงกันมีคนชี้แจง แต่เวลาสอบจะนำพาไปสอบทีละ
แถว อาจารย์ที่ชี้แจงก็บรรยายสาธยายไปเรื่อยๆเหมือนชวนคุย แต่ก็มีพูดให้ใจหายนิดๆเหมือนกันเรื่อง
การสอบปากเปล่าไม่ผ่านอะไรประมาณนั้น
และแล้วเมื่อได้เวลาที่เขาเรียกให้เข้าสอบทีละแถว ลืมบอกไป ผู้ที่สอบของสำนักงาน 1 ปีจะนั่ง
แถวหน้า ส่วนแบบรุ่นจะนั่งข้างหลัง ดังนั้นแน่นอนว่าผมก็ได้สอบก่อนอยู่ต้นๆแถวเลยครับ แต่ของรุ่นเอง
ก็เรียกไปทีละแถวพร้อมๆกับแบบปีครับ แต่ของปีสอบไม่กี่คนเพราะคนสอบได้สนามนี้มีน้อย จึงไม่นานก็
หมด เมื่อเข้าสอบไปแล้วแถวแรก ต่อมาก็เรียกแถวที่สองเข้าห้องสอบ เชื่อไหมตัดอยู่ที่คนนั่งข้างผมพอ
ดีเป็นพี่ผู้ใหญ่ดูใจดีคนหนึ่ง ผมก็ชวนนั่งคุยกับเขาไปเรื่อยๆ และแล้วก็ถึงคิวแถวผมละครับ แถวที่ 3 วินา
ทีนั้น ผมก็นึกซะว่าเอาวะๆยังไงๆก็ต้องผ่านทุกคน อีกอย่างผมคิดว่าถ้าเราผ่านข้อเขียนมาได้ อีกทั้ง
ความรู้เราก็พอที่จะวัดดวงได้ ไม่น่าจะเป็นปัญหาเท่าไหร่ เมื่อเข้าไปในห้องสอบแล้วจะให้นั่งรอหน้าห้อง
สอบซึ่งคั่นระหว่างห้องที่ผู้สอบนั่งรอสอบกับห้องสอบไว้ รอให้คนก่อนหน้าสอบเสร็จจึงได้เข้าไป และ
แล้วถึงคิวผม วินาทีนี้เป็นต้นไปอ่านกันดูๆนะครับถึงจุดคลายแม็กล่ะ!!!
"ผมได้เดินเข้าไปหาอาจารย์กรรมการซึ่งนั่งคู่กันอยู่ 2 ท่าน ดูท่านทั้งสองมีอายุแล้วและดูใจดี
ด้วยนะครับ ยิ้มแย้มดูไม่ดุด้วย คิดในใจน่าจะโชคดีละ ทันทีที่เดินไปที่นั่งสอบ ผมก็แสดงความเคารพ
ด้วยการไหว้ ท่านทั้งสองคนแล้วพูดว่า "สวัสดีครับอาจารย์" แล้วผมก็นั่งลงที่เก้าอี้ ท่านคนที่สอง ก็ถาม
ผมว่า"ชื่ออะไรครับ" ผมก็ตอบ และท่านก็ถามคำถามอื่นๆทั้งหมดว่า "จบมาจากที่มหาวิทยาลัยที่ไหน"
"จบปีไหน" "ฝึกที่สำนักงานไหนและอยู่แถวไหน" "คดีเข้าสำนักงานเยอะไหม" "เคยทำคดีให้เขาไหม"
ทั้งหมดที่ท่านคนที่สองถามมานั้นเป็นคำถามเกริ่นๆทั่วไปก่อน และผมก็ตอบตามที่ถามไปซึ่งก็ไม่ได้ยาก
อะไรตรงนี้ ต่อมาท่านคนที่สองจึงหยิบกระดาษคำถามขึ้นมา ปรากฏว่าคำถามที่ท่านจะหยิบมานั้น คน
ก่อนหน้าพากระดาษคำถามไปด้วย กำละ (-.-") ..... ท่านคนที่สองก็เลยไปให้เขาประกาศให้คนก่อน
หน้าเอากระดาษคำถามมาคืนด้วย ผมสันนิษฐานว่า สงสัยสอบผ่านดีใจตื่นเต้นเกินไปหน่อยนำเอา
กระดาษคำถามไปด้วย ผมขำในใจมาก ในระหว่างท่านคนที่สองเดินไปเพื่อขอให้เขาประชาสัมพันธ์ถึง
คนสอบก่อนหน้าผมให้เอากระดาษมาคืน จึงเหลือท่านแรกๆ จึงไม่ให้เสียเวลา จึงฉีกกระดาษคำถาม
แล้วให้ผมตอบตามที่ถามในกระดาษแทน ปรากฏว่าเมื่อผมดูคำถามแล้ว เป็นคำถามที่เห็นแล้ว ดีใจขึ้น
มาปั้บเลย เนื่องจากเป็นคำถามที่ผมเตรียมมาด้วย ซึ่งคำถามก็จะถามได้ใจความว่า "อธิบายถึงสิทธิของ
ผู้ต้องหาหรือผู้ถูกขังตามประมวลกฏหมายวิธีพิจารณาความอาญา ตามมาตรา 7/1 มีอะไรบ้าง" ซึ่งคำ
ถามนี้ผมจำตัวบทได้ก็เลยตอบไปค่อนข้างสมบูรณ์ ซึ่งท่านแรกก็บอกผมว่า "ตอบถูกหมดเลยเนี้ย ไปได้
เลย" ผมก็ดีใจมากครับ ก็เดินออกไปตามสเต็ป จากนั้นก็เอาเอกสารที่เขาแจกข้างหน้ามากรอกเพื่อเสีย
ค่าทำเนียบรุ่นและค่าประกาศนียบัตรรวม 500 บาท ก่อนกลับด้วย เมื่อเสร็จภารกิจแล้วก็กลับบ้าน แต่
ก่อนกลับผมได้ฝากมือถือไว้กลับพนักงานของสภาทนายความ ซึ่งสอบเสร็จผมไม่ลืมกลับมาเอา จึง
อยากเตือนให้คนที่ไปสอบปากเปล่าเสร็จแล้วอย่าลืมเอาของที่ฝากด้วยนะครับ เดี๋ยวดีใจมากจนลืมของ
ที่ฝาก ส่วนปากเปล่าที่ผมสอบเสร็จนั้นใช้เวลาเร็วมากครับ เนื่องจากได้สอบเป็นคนต้นๆของแถวด้วย
ผมได้กลับบ้านประมาณ 9 โมงกว่าๆเองครับ เห็นว่าสอบเสร็จทั้งหมดก็ประมาณบ่ายๆ ก็ถือว่าคนที่สอบ
หลังๆก็ได้กลับช้านะครับ "
****************
และทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ตรงของผมครับในวันสอบปากเปล่าทนายความ จึงขอแชร์ให้
คนที่อยากรู้ว่าบรรยากาศการสอบเป็นอย่างไร เกิดอะไรขึ้นในวันสอบบ้าง ขอบคุณที่ได้อ่าน
บทความครับ
เป็นคำบอกเล่าที่ช่วยผ่อนคลายคนที่กำลังเตรียมสอบได้ดีเลยค่ะ ดิฉันเป็นคนนึงที่ยังคิดไม่ตกว่าอาจารย์จะถามอะไร
ตอบลบเป็นคำบอกเล่าที่ช่วยผ่อนคลายคนที่กำลังเตรียมสอบได้ดีเลยค่ะ ดิฉันเป็นคนนึงที่ยังคิดไม่ตกว่าอาจารย์จะถามอะไร
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบ