ตามปกติแล้วการสอบทนายความในประเทศไทยนั้น ผู้ที่จะสอบเข้าเป็นทนายความจะ
ต้องมีคุณสมบัติตามที่สภาทนายความกำหนด ซึ่งแน่นอนว่าโดยทั่วไปต้องสำเร็จการศึกษานิติศาสตร
บัณฑิตก่อน ในการจัดการการสอบทนายความหรือที่รู้จักกันในหมู่คนทั่วไปว่า "ตั๋วทนาย"ซึ่งมีการจัด
สอบโดยสำนักฝึกอบรมวิชาว่าความแห่งสภาทนายความ ทางสำนักฝึกอบรมฯได้แบ่งการสอบออกเป็น
2 ประเภท ได้แก่ การสอบประเภทรุ่นที่เรียกว่า "ตั๋วรุ่น" และอีกประเภทหนึ่งเรียกว่า "ตั๋วปี" ในทีนี้จะ
ข้ามรายละเอียดที่มาของ 2 ประเภทนี้ ซึ่งสามารถหาข้อมูลได้ตามบอร์ดหรือเว็บไซต์ต่างๆ ได้ ผมจะ
แนะนำให้เฉพาะแนวทางในการสอบให้เป็นวิทยาทานครับ
-ในการสอบใบอนุญาตให้เป็นทนายความประเภทรุ่นนั้น ในส่วนของภาคทฤษฎี ทางสำนักฝึก
อบรมฯ ได้ออกสอบโดยการเขียนตอบในสมุดคำตอบซึ่งมิใช่แบบฟอร์มของศาล ในการสอบจึงต้อง
ตอบเฉพาะเนื้อหาอย่างเดียวเท่านั้น (ไม่มีการกรอกรายละเอียดต่างๆ เหมือนแบบพิมพ์ศาล เช่น
กรอกชื่อคู่ความ กรอกที่อยู่ของคู่ความ หรือ กรอกที่อยู่ทนายในส่วนคำร้อง\แถลง\ขอ ต่างๆ เป็นต้น)
ซึ่งผมจะแนะนำให้ผู้ที่จะสอบอ่านหนังสือ ตำราต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสอบ ต้องศึกษาโดยใช้
ความเข้าใจและความจำ ไม่แนะนำให้ใช้วิธีจำเพียงอย่างเดียว เพราะจะทำให้ไม่เข้าใจหรือรู้เกี่ยวกับที่
มาหรือวัตถุประสงค์ในสิ่งที่เราเขียน เพราะการสอบนั้นสามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ด้วย การศึกษาที่ดี
ควรทำความเข้าใจและจำควบคู่กันไป เช่น คำร้องต่างๆ ที่ยื่นต่อศาลโดยทั่วไป จะมีสามส่วนในการ
เขียนกล่าวคือ
-ส่วนแรก ต้องรู้ว่าคดีนี้อยู่ระหว่างทำอะไร อาทิ อยู่ระหว่างการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้อง คดีนี้
ศาลนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่............ ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่............(คดีอาญา) โจทก์ยื่นฟ้อง
ต่อศาลในวันนี้ ฯลฯ
-ส่วนที่สอง เป็นการบรรยายถึงเหตุแห่งการยื่นคำร้องว่าทำไม มีเหตุอะไรที่ยื่น เช่น
ต้องการที่จะให้ศาลมีคำสั่งปิดหมายโดยทำเป็นคำแถลง ก็บรรยายเหตุที่ยื่นคำแถลงนี้ว่า เนื่องจาก
จำเลยมีภูมิลำเนาที่แน่อนตามฟ้องโจทก์ ปรากฎตามสำเนาทะเบียนราษฏรเอกสารท้ายคำแถลง หรือ
ต้องการให้ศาลออกหมายเรียกทายาทเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่จำเลย ก็ต้องบรรยายเหตุแห่งการยื่นว่า
เนื่องจากจำเลยได้เสียชีวิตเมื่อวันที่.........โดย.........โจทก์ทราบว่า นาย/น.ส./นาง............เป็น
ภรรยา/สามี ฯ ของจำเลยผู้ตายปรากฎตาม.......... เป็นต้น
-ส่วนที่สามนั้น สืบเนื่องมาจากส่วนที่สองเหตุแห่งการยื่นคำร้องต่างๆ เมื่อบรรยายแล้วต้องการให้ศาล
มีคำสั่งอะไรหรืออนุญาตให้ตามคำร้องหรือไม่ ต้องบรรยายในส่วนนี้ส่วนที่สาม เช่น ตัวอย่างตาม
ส่วนที่สองต้องการที่จะให้ศาลมีคำสั่งปิดหมายโดยทำเป็นคำแถลง ก็บรรยายเหตุที่ยื่นคำแถลงนี้ว่า
เนื่องจากจำเลยมีภูมิลำเนาที่แน่อนตามฟ้องโจทก์ ปรากฎตามสำเนาทะเบียนราษฏรเอกสารท้ายคำ
แถลง ส่วนที่สามนี้ก็บรรยายว่า ดังนั้น ในการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยหากไม่พบตัว
จำเลยหรือไม่มีผู้ใดรับไว้แทนโดยชอบ ขอศาลได้โปรดมีคำสั่งให้ปิดหมายเรียกและสำเนาคำฟ้อง ณ
ภูมิลำเนาของจำเลยแทนการส่งหมายโดยวิธีธรรมดาด้วย ขอศาลได้โปรดอนุญาต หรืออีกตัวอย่าง ใน
ส่วนที่สอง ต้องการให้ศาลออกหมายเรียกทายาทเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่จำเลย ก็ต้องบรรยายเหตุแห่ง
การยื่นว่าเนื่องจากจำเลยได้เสียชีวิตเมื่อวันที่.......โดย........โจทก์ทราบว่า นาย/น.ส./นาง..........
เป็นภรรยา/สามี ฯ ของจำเลยผู้ตายปรากฎตาม..........ในส่วนที่สามก็บรรยายว่า โจทก์จึงขอประทาน
กราบเรียนต่อศาลที่เคารพได้โปรดออกหมายเรียก นาย/น.ส./นาง............ให้เข้ามาเป็นคู่ความแทนที่
จำเลยผู้ตายด้วย ขอศาลได้โปรดอนุญาต เป็นต้น หลังจากนั้นก็จะต้องขึ้นบรรทัดใหม่ เขียนว่า "ควรมิ
ควรแล้วแต่จะโปรด"จะเห็นได้ว่าเนื้อหาคำร้องต่างๆ(รวมถึงคำแถลง คำขอและคำบอกกล่าวด้วย)โดย
ทั่วไปจะมีสามส่วนดังที่ได้อธิบายมาแล้ว ก็จะได้คำตอบดังนี้
คำแถลงขอปิดหมาย ภูมิลำเนาจำเลย
ข้อ1.คดีนี้โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยต่อศาลในวันนี้
ข้อ2. เนื่องจากจำเลยมีภูมิลำเนาที่แน่อนตามฟ้องโจทก์ ปรากฎตามสำเนาทะเบียนราษฏรเอกสารท้ายคำแถลง
ข้อ3.ดังนั้น ในการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยหากไม่พบตัวจำเลยหรือไม่
มีผู้ใดรับไว้แทนโดยชอบ ขอศาลได้โปรดมีคำสั่งให้ปิดหมายเรียกและสำเนาคำฟ้อง ณ ภูมิลำเนาของ
จำเลยแทนการส่งหมายโดยวิธีธรรมดาด้วย ขอศาลได้โปรดอนุญาต
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด
หรือตัวอย่างที่ 2
คำร้องขอให้เรียกทายาทเข้ามาเป็นคู่ความแทนจำเลยผู้ตาย
ข้อ1. คดีนี้ศาลนัดชี้สองสถานในวันที่ 1 มกราคม 2556
ข้อ2.เนื่องจากจำเลยได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2556 โดยเกิดอุบัติเหตุถูกรถยนต์ชนถึงแก่ความตาย ปรากฎตามสำเรามรณบัตรเอกสารท้ายคำร้องหมายเลข1 โจทก์ทราบว่า นางจิตตก ซวยซ้อน เป็นภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยผู้ตายปรากฎตามสำเนาใบสำคัญการสมรสเอก สารท้ายคำร้องหมายเลข2
ข้อ3.โจทก์จึงขอประทานกราบเรียนต่อศาลที่เคารพได้โปรดออกหมายเรียกนางนางจิตตก ซวยซ้อน ให้เข้ามาเป็นคู่ความแทนที่จำเลยผู้ตายด้วย ขอศาลได้โปรดอนุญาต
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด
***ข้อแนะนำ - ห้ามเว้นบรรทัดเด็ดขาดเมื่อเขียนเสร็จต้องขึ้นบรรทัดใหม่ เว้นแต่ขึ้นข้อใหม่ต้องเขียน
หน้าใหม่
- อย่าลืมเขียนเลขกำกับข้อให้ถูกต้องด้วยเสมอตามคำสั่งที่ข้อสอบระบุให้ทำ
- ลายมือไม่สวยไม่เป็นไร แต่เขียนแล้วต้องอ่านออก ตรงนี้สำคัญมากเหมือนกัน
- อย่าเขียนชื่อ หรือ เครื่องหมายใดๆที่แสดงให้เห็นหรือเข้าใจได้ว่าอันส่อไปในทาง
ทุจริต จะถือว่าเป็นแกงได (กรรมการคุมสอบจะชี้แนะตรงนี้)
และที่ผมจะแนะนำให้ผู้ที่จะเตรียมสอบทนายทั้งหลายนี้ เน้นย้ำเรื่องนึงสำคัญในปัจจุบัน
ทางสำนักฝึกอบรมฯมีมาตรฐานสูงและปรับเปลี่ยนคุณภาพ ในการออกข้อสอบที่ค่อนข้างไปในทางคิด
วิเคราะห์ซับซ้อนขึ้น สิ่งที่จะแนะนำคือ หลักกฎหมาย และ แนวฎีกา โดยเฉพาะหลักกฎหมาย ผม
อยากให้ศึกษากันดูดีๆ เพราะการออกข้อสอบในปัจจุบันนี้ เวลาบรรยายฟ้องหรือคำให้การและฟ้องแย้ง
ต้องรู้หลักกฎหมายจากสาระบัญญัติด้วย เช่น ข้อสอบตั๋วรุ่น ภาคทฤษฏีรุ่นที่ 40 มีการออกสอบในคดี
เรื่องสัญญากู้ยืมอันมีมูลหนี้มาจากการโอนสิทธิเรียกร้องซึ่งเปลี่ยนตัวเจ้าหนี้ ที่เจ้าหนี้ผู้รับโอนสิทธิทำ
สัญญาซื้อขายรถยนต์กับผู้ซื้อ ผู้ซื้อโอนสิทธิมาให้ผู้ขายซึ่งเป็นการโอนความเป็นเจ้าหนี้เรียกให้ชำระ
หนี้จากลูกหนี้ของผู้ซื้อ(เจ้าหนี้เดิม)แทนการชำระเงิน อันนี้หากผู้เข้าสอบไม่รู้หลักกฎหมายเกี่ยวกับเรื่อง
การโอนสิทธิเรียกร้องซึ่งอยู่ในกฎหมายลักษณะหนี้ว่ามีหลักเกณฑ์อย่างไร ก็ไม่สามารถที่จะบรรยาย
ฟ้องให้ถูกต้องและสมบูรณ์ได้ มีโอกาสทำให้สอบตกสูงมาก แต่ในขณะเดียวกันหากคนที่รู้หลักฎหมาย
ก็จะนำมาปรับใช้เวลาบรรยายฟ้องได้ที่ถูกต้องและอาจสมบูรณ์ได้ ดังนั้นตรงนี้ส่วนตัวของผมจึงแนะนำ
ว่าอยากให้เน้นหลักกฎหมายเยอะๆเพราะมีส่วนสำคัญมากต่อการชี้ชะตาว่าสอบได้หรือไม่เลยครับ
การศึกษาคำฟ้องนั้น แน่นอนว่าการออกข้อสอบโดยส่วนใหญ่จะออกสอบ ฟ้องแพ่ง และ ฟ้อง
อาญาเป็นหลัก แต่ในบ้างครั้งอาจออกสอบเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทคือคดีคำร้องขอต่างๆทางแพ่ง เช่น คดี
คำร้องขอตั้งเป็นผู้จัดการมรดก คำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้เป็นบุคคลไร้ความสามารถ เป็นต้น แต่
สำหรับการสอบภาคปฎิบัติของตั๋วรุ่น และ ตั๋วปี มักออกสอบในเรื่องคำให้การของจำเลยและฟ้องแย้ง
ด้วย ซึ่งต้องทำความเข้าใจให้ดี ในทีนี้จะขอกล่าวถึงการร่างฟ้องในส่วนภาคทฤษฏีก่อน ซึ่งการออก
สอบจะมีเรื่อง คำฟ้องแพ่งและอาญา แต่บางทีอาจจะออกเรื่องคดีไม่มีข้อพิพาท
ติดตามต่อ ---------->>>>> แนวทางการสอบเป็นทนายความ 2 (ภาคทฤษฏี)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น